สินเชื่อส่วนบุคคลในหรือนอกระบบ

กู้ด่วน ได้เงินทันใจ อนุมัติไว ดอกเบี้ยต่ำ ไร้คนค้ำ ไร้หลักฐานสลิปเงินเดือน พร้อมกับทิ้งเบอร์โทรติดต่อ‥ นี่อาจเป็นคำโฆษณาที่เห็นได้ทั่วไปตามตามที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นบนสะพานลอย ตามป้ายรถเมล์ ผนังกำแพง ตู้โทรศัพท์สาธารณะ เสาไฟฟ้า เป็นต้น ทราบหรือไม่ว่าตัวตนแหล่งเงินเหล่านี้อยู่ที่ไหน คือใคร น่าเชื่อถือได้หรือไม่ หากเป็นการเสนอบริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบนี้ ให้นึกไว้ก่อนเลยว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบแน่ๆ ซึ่งหากคุณหลงเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือคิดหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าจากเงินนอกระบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวคือ วิธีการติดตามทวงหนี้แบบขู่เอาชีวิตและทรัพย์สิน และดอกเบี้ยที่สูงลิบลิ่ว

การใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลกับเจ้าหนี้นอกระบบจะมีการคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่สูง คือ ร้อยละ 5 10 หรือ 20 ต่อเดือน กาดอกจันทร์ไว้ที่ *ต่อเดือน* ไม่ใช่ต่อปี ซึ่งถ้าคิดเป็นรายปีจะเท่ากับร้อยละ 60 120 หรือ 240 เลยทีเดียว กระนั้น อาจมีสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบบางเจ้าที่คำนวณดอกเบี้ยเป็นรายสัปดาห์ หรือรายสองสัปดาห์ เพียงแค่ลำพังเงินต้นก็แย่ นี่ยังต้องใช้ดอกเท่าไหร่จะปลดหนี้ได้ เมื่อไหร่จะเป็นไท ไม่เป็นทาสของสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบ และไหนจะต้องทนอับอายขายหน้ากับวิธีการติดตามหนี้อันแสดโหดของสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบนี้อีก แทบจะมุดแผ่นดินหนี้กันเลย ดังนั้น แค่เป็นหนี้ก็หนักพอแล้ว อย่าต้องปวดหัวกับการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายเลย เราเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับของภาครัฐดีกว่าเป็นไหนๆ

สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อหรือเงินกู้สำหรับบุคคลธรรมดา วัตถุประสงค์ของสินเชื่อส่วนบุคคลก็เพื่อใช้จับจ่ายตามความจำเป็นหรือความต้องการ สินเชื่อส่วนบุคคลจะอนุมัติเงินให้มากกว่าจำนวนเงินเดือนไม่เกินห้าเท่า หรือไม่ก็แล้วแต่ว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นกำหนดไว้ และสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบนี้ จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ประมาณร้อยละ 15-28 ต่อปีเท่านั้น ข้อได้เปรียบของสินเชื่อส่วนบุคคลคือ ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องหาใครมาค้ำ อนุมัติไว และถูกกฎหมาย ไม่ต้องเอาชีวิตและทรัพย์สินไปเสี่ยงกับการทวงหนี้ที่น่าสะพรึงกลัว ไม่ต้องโดนขู่กรรโชก

สินเชื่อส่วนบุคคลก็มีหลายแบบ ล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้เงิน เช่น บัตรกดเงินสด สินเชื่อเงินสด หรือในชื่อสินเชื่ออเนกประสงค์ ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นเงินก้อนที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินอนุมัติไว้ใช้จ่าย โดยวงเงินจะมากกว่าเงินเดือนประมาณ 5 เท่า หรือแล้วแต่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้กำหนด สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถตอบความต้องการกับคนที่ต้องการใช้เงินก้อน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน บ้างนำไปต่อยอดธุรกิจ บ้างใช้เพื่อการศึกษา แต่งงาน ไปท่องเที่ยวในหรือต่างประเทศ ยิ่งเป็นแบบอเนกประสงค์ยิ่งเพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น เพราไม่กำหนดว่าจะใช้เพื่อการใดการหนึ่ง จะนำเงินไปทำอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ ขอเพียงแค่ชำระเงินคืนเป็นจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกเดือน ตามระยะเวลาที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ กำหนดก็พอ

สินเชื่อส่วนบุคคลจะไม่เหมือนกับการกดเงินสดจากบัตรกดเงินสด เพราะบัตรกดเงินสดจะใช้เพื่อกดเงินสดออกมาจากตู้เอทีเอ็มใช้ยามจำเป็น และต้องชำระคืนในเดือนถัดๆ ไป แต่สินเชื่อส่วนบุคคลจะเป็นการได้รับเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียว ภายในการขอกู้ครั้งเดียว สินเชื่อส่วนบุคคลจะมีการกำหนดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนต่อเดือน รวมถึงระยะเวลาในการกู้ ดูสบาย ชิค และเบาตัวกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบเป็นไหนๆ

ข้อดีของการขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในระบบจะยังทำให้ลูกหนี้ได้รับการบริการที่ดีกว่าด้วย อันเนื่องมาจากผู้บริโภคยังมีความต้องการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมีการเติบโตต่อเนื่องทำให้ภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือพบว่าผู้ที่ใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล จะพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลจาก 1) ความสะดวกในการขอสินเชื่อ/เรียกใช้วงเงิน 2) ความสะดวกในการชำระเงิน 3) อัตราดอกเบี้ย และโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น ของแถมของพรีเมี่ยม ส่วนลดร้านค้า และส่วนอื่นๆ ที่ลูกค้ามักมองหาคือการมีช่องทางการผ่อนชำระเงินในแต่ละเดือนที่สะดวก มีหลายสาขาหลายช่องทาง

แม้ว่า พฤติกรรมการใช้ขอสินเชื่อส่วนบุคคลจะได้รับเงินเป็นก้อนใหญ่ อาจทำให้ผู้ใช้เงินเกิดความสุรุ่ยสุร่ายได้ก็ตาม แต่ธนคารหรือสถาบันการเงินเองก็ไม่กังวลนักเพราะด้วยธนาคารและสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของรัฐจะมุ่งเล่นกับลูกค้าที่มีฐานเงินเดือนค่อนข้างปานกลาง คืออยู่ในช่วง 15,0001-50,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นรายได้หรือเงินเดือนก็เป็นหลักประกันได้ในระดับหนึ่ง จึงเชื่อว่าลูกค้าจะเป็นคนที่พยายามสร้างสมดุลรายรับและรายจ่าย และตั้งใจนำเงินเพื่อการบริโภคเป็นลำดับแรก มากกว่าเพื่อชำระคืนสินเชื่อประเภทอื่นๆ ส่วนรองลงมาอาจมีใช้นำไปหมุนเวียนชำระคืนหนี้สินอื่น ๆ หรือมีความสามารถในการบริหารจัดการการเงินได้

แม้การขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในกำกับจะอุ่นใจกว่า แต่ก็มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นวิธีการเรียกเก็บหนี้ที่มีความสมควรแก่เหตุ ได้แก่

‥ เรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้เท่านั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ญาติ หรือเพื่อนร่วมงาน

‥ไม่รังควานลูกหนี้โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

‥ไม่ใช้คำพูดหยาบคาย หรือข่มขู่ และรุนแรง เพื่อหวังให้ให้ลูกหนี้ชำระหนี้

‥ไม่มีการปลอมแปลง บิดเบือนเอกสาร เป็นต้น