เชื่อเหลือเกินว่าในยุคข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจฝืดเคือง คนจำนวนไม่น้อยต้องดิ้นรนทำมาหากินมากขึ้น แก่งแย่งกันมากขึ้น และก็คนจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่มีรายรับไม่พอกับรายจ่าย เงินเดือนที่ได้มาไม่พอกับที่ต้องจ่ายออกไปเพื่อประทังชีวิตประจำวัน ต่างก็หาวิธีดิ้นรถกันไป บ้างหยิบยืมเอาจากคนใกล้ชิด บ้างกู้หนี้ยืมสิน ทั้งทำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล เปลี่ยนรถเป็นเงิน ฯ บ้างเลือกการประหยัดอดออม และแม้รู้ก็ทั้งรู้ว่าสินเชื่อต่างๆ จะมีดอกเบี้ยหฤโหดเท่าใด แต่ก็ต้องจำใจยอมรับ เพราะจะให้ปั๊มเงินใช้เองก็ดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อไปหน่อย อีกอย่างคือ ต้องทำใจว่าเมื่อขอกู้หนี้ยืมสินเสี่ยงต่อการเป็นหนี้เป็นสินพะรุงพะรัง และเสี่ยงกับการปัญหาหนี้ระยะยาว
เชื่อเหลือเกินว่าในยุคข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจฝืดเคือง คนจำนวนไม่น้อยต้องดิ้นรนทำมาหากินมากขึ้น แก่งแย่งกันมากขึ้น และก็คนจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่มีรายรับไม่พอกับรายจ่าย เงินเดือนที่ได้มาไม่พอกับที่ต้องจ่ายออกไปเพื่อประทังชีวิตประจำวัน ต่างก็หาวิธีดิ้นรถกันไป บ้างหยิบยืมเอาจากคนใกล้ชิด บ้างกู้หนี้ยืมสิน ทั้งทำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล เปลี่ยนรถเป็นเงิน ฯ บ้างเลือกการประหยัดอดออม และแม้รู้ก็ทั้งรู้ว่าสินเชื่อต่างๆ จะมีดอกเบี้ยหฤโหดเท่าใด แต่ก็ต้องจำใจยอมรับ เพราะจะให้ปั๊มเงินใช้เองก็ดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อไปหน่อย อีกอย่างคือ ต้องทำใจว่าเมื่อขอกู้หนี้ยืมสินเสี่ยงต่อการเป็นหนี้เป็นสินพะรุงพะรัง และเสี่ยงกับการปัญหาหนี้ระยะยาว
แต่หากหลายคนแย้งว่า ก็เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลนั้นด้วย จะให้ทำอย่างไร ‥ อย่าเพิ่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย ยิ่งถ้าติดทั้งหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นเจ้าหนี้เดียวกัน คุณสามารถได้รับข้อเสนอในรวมหนี้ให้มาเป็นยอดเดียวกัน และยังอาจได้รับการคำนวณอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยกว่าเดิม
หากเริ่มยิ้มออกก็ว่ากันต่อ‥ การมีสติว่าตัวเองมีหนี้ จะช่วยให้ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างรอบคอบมากขึ้น พึงตระหนักเสมอว่าหนี้จำนวนที่เหมาะสมและควรค่าแก่ความจำเป็นสามารถเกิดขึ้นได้ และเกิดกับใครก็ได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือการจัดสรรเงินเมื่อเป็นหนี้ เพราะหนี้คือภาระผูกพันทางการเงินในอนาคต คุณต้องยอมรับว่าต้องเจียดหรือแบ่ง หรือจัดสรรเงินในปัจจุบันเพื่อหนี้สินในอนาคต ยิ่งการใช้เงินเต็มวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลทำให้คุณเสี่ยงกับอัตราดอกเบี้ยอันโหดร้าย เพราะวงเงินสินเชื่อที่คุณได้นั้น จะมากกว่ารายได้ประมาณ 2 - 5 เท่า เชียว ‥ หากขาดสติก็หมดสตางค์เอาง่ายๆ ไม่รู้ตัว
เทคนิคอีกอย่างของการเคลียร์หนี้ด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลคือ ไม่ควรเปิดบัตรเครดิตหรืออื่นๆ เพิ่ม การขอสินเชื่อส่วนบุคคลย่อมดีกว่าการเป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่มเติม เพราะแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลอาจคำนวณแล้วจะแพงกว่า แต่ทว่าสินเชื่อส่วนบุคคลมีอัตราดอกเบี้ย 28% แบบลดต้นลดดอก และยิ่งมีการกำหนดจำนวนเงินเพื่อการชำระหนี้รายเดือนไว้แบบชัดเจน และทำตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะทำให้คุณเห็นอนาคตว่าจะชำระหนี้ได้หมดเมื่อไหร่ อีกอย่างคือการจ่ายหนี้น้อยแต่นานของบัตรเครดิตไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา และห้ามเข้าสู่วงการกู้หนี้นอกระบบเด็ดขาด เพื่อจะได้หลุดจากวังวนของการเป็นหนี้ที่ไม่จบสิ้น
แต่กระนั้นก็ตาม อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าเคลียร์หนี้สินที่มีด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลแล้วจะรอด เพราะก็มีหลายคนที่หลงใหลไปกับแคมเปญหรือคำโฆษณาสารพัดสินเชื่อ เพราะคุณก็อาจตกหลุมพรางได้อีกเช่นกัน เดี๋ยวกลายเป็นต้องมือล่างนอนก่ายหน้าผาก
สาเหตุที่ตลาดสินเชื่อมีความคึกคักก็เพราะแทบทุกแบงก์ โดยเฉพาะแบงค์ใหญ่เริ่มลงมาแข่งขันด้วย และยังตั้งเป้าหมายว่า จะช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดคืนมาจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์สัญชาตินอก เช่น ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด, ธนาคารซิตี้แบงก์ และสถาบันการเงินประเภท non-bank เช่น จีอี แคปปิตอล, บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ และสิ่งที่คนชนชั้นกลางและมีรายได้ปานกลางจะพลาดและเคลิบเคลิ่มไปกับผู้ให้บริการสินเชื่อก็คือ ผู้ให้บริการจากกลุ่มนอนแบงก์นี่แหละ เพราะเขาจะลงไปเล่นกับลูกค้าที่มีฐานรายได้ที่ระดับ 5,000 - 15,000 บาทต่อเดือน กลุ่มแบงก์สัญชาตินอก ที่จะขยับฐานรายได้มาเล่นที่ 7,500-15,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่แบงก์พาณิชย์ไทยเน้นที่ประมาณ 8,000-15,000 บาทต่อเดือน เรียกว่าแยกันชัดเจน และสิ่งที่นอนแบงก์ได้เปรียบคืออนุมัติไวและเร็ว
หากคิดจะงัดกลเม็ดเคลียร์หนี้แล้ว คุณต้อง
‥ทำการจดบันทึกรายรับ และรายจ่ายทุกสิ่งทุกอย่างจะได้รู้ว่าเงินอยู่เท่าไหร่ และเงินออกไปเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้กระแสเงินของคุณได้ดีเท่าตัวคุณหรอก ว่าคุณมียอดเงินในบัญชี มีหนี้ที่ต้องชำระ เท่าไหร่
‥รู้ใจตัวเองว่าแค่อยากได้ หรือ จำเป็นต้องใช้ ถ้าอยากได้ถามว่ารอได้ไหม เพราะการซื้อด้วยเงินสด เป็นการตัดจบทุกปัญหา แม้ว่าพนักงานจะโอ้โลมปฏิโลมคุณให้ใช้บัตรโน่นนี่ ก็ช่างเขาเถอะ เพราะเวลาคุณเป็นหนี้ หรือมียอดค้างชำระ พนักงานเหล่านั้นไม่ได้มาช่วยคุณผ่อนหรือจ่ายหนี้ ‥ จำไว้ !
‥เมื่อเคลียร์ปัญหาหนี้ได้ มีกำลัง ควรเริ่มออมเงิน
แจกแจงกันให้เห็นเป็นช็อตๆ แบบนี้ ก็เพื่อที่จะเตือนว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี วินัยทางการเงินต่างหากคือปัจจัยสำคัญในการลด ปลดหนี้ สิ่งสำคัญเมื่อมีหนี้หรือเป็นหนี้แล้วหากไม่รักษาวินัยทางการเงิน จะทำให้ในอนาคตหมดความน่าเชื่อถือ อันเกิดจากประวัติการชำระเงินที่ไม่ดี